คำถามที่พบบ่อย

  • น้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อ (Normal Saline Solution) เป็นสารละลายเกลือบริสุทธิ์ที่มีความใสไม่มีสี ไม่มีสารเติมแต่งทั้งสารกันเสียและยาฆ่าเชื้อใด ๆ
  • น้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อ ประกอบด้วยเกลือบริสุทธิ์ Sodium chloride (โซเดียมคลอไรด์) ปริมาณ 0.9 กรัม ในน้ำกลั่นบริสุทธิ์ 100 มิลลิลิตร เพื่อให้ได้เป็นน้ำเกลือ 0.9% w/v ซึ่งเป็นสารละลายไอโซโทนิค (Isotonic)  ซึ่งหมายถึงสารละลายที่มีความเข้มข้นสมดุลกับของเหลวและเซลล์ของร่างกาย
  • น้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อ จึงไม่ทำให้เกิดความระคายเคืองใด ๆ ผ่านกระบวนการผลิตและทำให้ปราศจากเชื้อด้วยความร้อนสูง มีมาตรฐานการผลิตเทียบเท่ากับน้ำเกลือ Normal Saline ที่ใช้ในโรงพยาบาล จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ ความสะอาดและความปลอดภัย

ประโยชน์ของน้ำเกลือปราศจากเชื้อมีหลายประการ อาทิเช่น

  • ใช้ชะล้างทำความสะอาดบาดแผล เช่น แผลเปิด แผลผ่าตัด แผลกดทับ รวมถึงแผลไฟไหม้
  • ใช้ล้างโพรงจมูก ช่วยชะล้างน้ำมูก เมือก เชื้อแบคทีเรียและสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ ลดอาการน้ำมูกไหลลงคอ ทำให้โพรงจมูกโล่งสะอาด หายใจได้สะดวกขึ้น ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกในผู้ที่มีอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบทั้งจากภูมิแพ้และการอักเสบชนิดไม่เป็นภูมิแพ้
  • ใช้หยดรูจมูก ช่วยลดความข้นเหนียวของน้ำมูก เพื่อช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก ในเด็กทารกและเด็กเล็กที่มีอาการเนื่องจากหวัด การติดเชื้อทางเดินหายใจ หรือมีโพรงจมูกอักเสบ
  • ใช้ชะล้างฝุ่นผงออกจากคอนแทคเลนส์ และชะล้างน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ก่อนสวมใส่
    เพื่อความสบายตา
  • ใช้ชะล้างดวงตาเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองจากฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอม
  • ใช้อมกลั้วปากและลำคอ เพื่อความสะอาดและรักษาสุขอนามัยภายในช่องปาก
    และช่วยส่งเสริมการหายของแผลภายในช่องปาก แผลร้อนใน แผลผ่าตัด แผลถอนฟัน
  • ใช้เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าบริเวณที่เป็นสิว เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน ภายหลังจากการรักษาสิว

ใช้ล้างแผลตามผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย, ล้างดวงตา, ล้างโพรงจมูก, อมกลั้วปาก, ใช้เช็ดบริเวณที่เป็นสิว เป็นต้น

  • ล้างมือให้สะอาด เปิดฝาขวด
  • ใช้มือจับกลางขวด หันปากขวดไปยังบริเวณแผล (ระวังไม่ให้ปากขวดสัมผัสกับมือและแผลหรือสิ่งอื่นใด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรคมายังน้ำเกลือในขวด)
  • บีบขวดน้ำเกลือเบา ๆ น้ำเกลือจะไหลออกจากปากขวดตรงไปยังบริเวณแผล บีบขวดให้น้ำเกลือไหลต่อเนื่องเพื่อทำการชะล้างสิ่งสกปรกออกจากแผลโดยไม่ทำให้แสบ
  • ปิดฝาขวดให้สนิท หลังจากใช้เสร็จแล้วทุกครั้ง
  • จากนั้นให้ใช้ผ้าก๊อซปราศจากเชื้อซับแผลเบา ๆ แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ หรือทำแผลตามความเหมาะสมหรือตามแพทย์สั่ง

    หมายเหตุ : หากเป็นแผลฉกรรจ์หรือแผลที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำ ต้องระมัดระวังการปนเปื้อนเชื้อโรคทุกขั้นตอน และผู้ที่ทำแผลอาจสวมถุงมือทางการแพทย์ตามความเหมาะสม

ก่อนเปิดใช้สังเกตดังนี้

  • ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หากซีลที่ฝาขวดมีการฉีกขาดหรือหายไป
  • ตรวจดูวันหมดอายุที่ระบุไว้ที่ฉลาก
  • ก่อนใช้ทุกครั้ง ควรตรวจสอบลักษณะของน้ำเกลือในขวด ต้องไม่พบสิ่งผิดปกติ สังเกตความใส น้ำเกลือต้องไม่มีสี ไม่มีตะกอนขุ่น

ขณะใช้ควรปฏิบัติดังนี้

  • ไม่ควรให้ปลายขวดสัมผัสกับสิ่งใดรวมทั้งนิ้วมือเพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้อโรค
  • ควรปิดฝาขวดให้สนิททันทีหลังการใช้งานทุกครั้ง โดยทั่วไปผลิตภัณฑ์ปราศจากเชื้อที่เปิดใช้แล้วมีโอกาสปนเปื้อนสิ่งสกปรกและเชื้อโรคจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ จึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์หลังเปิดใช้เกิน 30 วัน หรือพบว่าน้ำยาผิดปกติ ขุ่น มีตะกอน หรือสงสัยว่ามีการปนเปื้อน

ไม่แนะนำให้ใช้ภายหลังจากเปิดใช้เกิน 30 วันไปแล้ว เนื่องจากน้ำเกลือปราศจากเชื้อ จะไม่มีส่วนผสมของสารกันเสียหรือตัวยาฆ่าเชื้อใด ๆ เมื่อเปิดใช้เป็นเวลานานอาจเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคจากภายนอกได้

น้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อ มีค่า pH ประมาณ 6 มีค่าความเป็นกรดอ่อน ๆ สมดุลกับค่า pH ของผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

สามารถใช้ได้บ่อยตามความจำเป็นหรือตามแพทย์สั่ง เนื่องจากน้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อเป็นสารละลายปราศจากเชื้อที่มีความปลอดภัย ไม่มีผลเสียต่อร่างกายเมื่อใช้ภายนอกอย่างถูกวิธี

ไม่ได้
เนื่องจากน้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อ ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสียหรือยาฆ่าเชื้อ จึงไม่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรคที่ผิวคอนแทคเลนส์ แต่สามารถใช้ชะล้างน้ำยาที่ตกค้างออกจากเลนส์ก่อนการสวมใส่ เพื่อความสบายตาได้

สามารถใช้น้ำเกลือซอฟคลีนปราศจากเชื้อดูแลผิวที่เป็นสิวได้ โดยใช้เช็ดบริเวณหัวสิวหลังการรักษา จะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำ มีส่วนช่วยให้แผลสิวหายเร็วขึ้น เนื่องจากเป็นน้ำเกลือปราศจากเชื้อ มีความบริสุทธ์ สะอาด ปลอดภัย

สามารถใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อเช็ดหน้าแบบเดียวกับการใช้โทนเนอร์ได้ เพราะน้ำเกลือปราศจากเชื้อ มีความบริสุทธิ์ สะอาด ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง และยังอาจช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ผิวที่ชุ่มชื้นอ่อนนุ่มจะมีคุณสมบัติในการซึมซับสารบำรุงได้ดี

  • การล้างโพรงจมูก เป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกเพื่อชะล้างเอาน้ำมูก เมือก สิ่งสกปรก หนองที่เกิดจากการอักเสบ รวมทั้งเชื้อแบคทีเรียในโพรงจมูกออกไป เพื่อให้โพรงจมูกโล่งช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เช่น อาการคัดจมูก คัน จาม น้ำมูกไหล (ทั้งที่ไหลออกมาข้างนอกและไหลลงคอ) แสบจมูก ปวดจมูก หรือปวดบริเวณไซนัส รวมทั้งลดกลิ่นเหม็นจากการอักเสบในโพรงจมูกด้วย
     
  • ควรใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อ Normal Saline ในการล้างจมูก
    (ความเข้มข้น Sodium chloride 0.9% w/v) ซึ่งมีคุณสมบัติไอโซโทนิค (Isotonic) คือสารละลายที่มีความเข้มข้นสมดุลกับของเหลวของเซลล์ร่างกาย ผ่านการทำให้ปราศจากเชื้อด้วยความร้อนสูง จึงใช้ได้อย่างปลอดภัย สะอาด และไม่ก่อการระคายเคืองใด ๆ น้ำเกลือปราศจากเชื้อช่วยลดความข้นเหนียวของน้ำมูก และลดการสะสมของสิ่งสกปรก รวมทั้งเชื้อโรคในโพรงจมูก
  • ช่วยล้างน้ำมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง ทำให้โพรงจมูกสะอาด
  • ช่วยให้อาการหวัดเรื้อรัง (คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล แสบจมูก) ดีขึ้น ลดน้ำมูกหรือเสมหะที่ไหลลงคอ
  • ช่วยให้ร่างกายระบายหนองจากไซนัสได้ดีขึ้น โดยลดน้ำมูกหรือหนองที่อุดตันที่บริเวณรูเปิดของโพรงไซนัส ในโพรงจมูก ทำให้อาการไซนัสอักเสบทุเลาได้เร็วขึ้น
  • ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากโพรงจมูกและไซนัสขึ้นไปยังหูชั้นกลาง หรือลงไปสู่ปอด
  • ช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรก เชื้อโรค สารก่อภูมิแพ้ สิ่งระคายเคือง ในโพรงจมูก
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุโพรงจมูก
  • ช่วยบรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ถ้าใช้น้ำเกลืออุ่นๆ ล้างโพรงจมูกจะช่วยลดอาการบวมของเยื่อบุจมูก ทำให้หายใจโล่งขึ้น
  • ช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง และลดการอักเสบในโพรงจมูก
  • การล้างโพรงจมูกก่อนการพ่นยาหรือการหยอดยาในจมูก (ในกรณีแพทย์สั่งยาพ่นจมูก หรือยาหยอดจมูกให้ใช้) จะทำให้ยาสัมผัสกับเยื่อบุโพรงจมูกได้มากขึ้น ส่งผลให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้ดีมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
  • ช่วยชะล้างคราบสะเก็ดแข็งของเยื่อบุโพรงจมูกภายหลังการผ่าตัด หรือการฉายแสง ทำให้แผลในโพรงจมูกและไซนัสหายเร็วขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดพังผืดซึ่งจะทำให้รูจมูกหรือไซนัสตีบแคบ
  • ในบางกรณี ทำให้แพทย์ลดปริมาณยาที่ใช้ในการรักษาโรคจมูกหรือไซนัสลงได้
  • เมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นค้างอยู่ในโพรงจมูก
  • เมื่อมีอาการคัดแน่นจมูก
  • เมื่อหายใจเอาฝุ่นควันหรือสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในจมูก
  • ก่อนใช้ยาพ่นจมูกหรือยาหยอดจมูก (ตามแพทย์สั่ง)
  • เมื่อมีเสมหะในลำคอ ซึ่งเกิดจากการอักเสบในโพรงจมูกหรือไซนัสอักเสบ
  • หลังผ่าตัด หรือหลังการฉายแสงบริเวณจมูกหรือไซนัส (ตามแพทย์สั่ง)
  • ล้างมือให้สะอาด
  • หาภาชนะมารองรับน้ำเกลือที่จะออกมาทางจมูกและปาก เช่น กะละมังใบเล็ก ๆ
    หรือล้างในอ่างล้างหน้า
  • ดึงก้านสูบของกระบอกฉีดยาออก แล้วเทน้ำเกลือลงกระบอกฉีดยาประมาณ 10-15 ซีซี ในผู้ใหญ่
    หรือประมาณ 5 ซีซี ในเด็ก จากนั้นสวมก้านสูบเข้าที่
  • ให้นั่งโน้มตัวไปข้างหน้าและก้มหน้าเล็กน้อย อยู่เหนือภาชนะรองรับน้ำเกลือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ
    หรืออยู่เหนืออ่างล้างหน้า ควรเริ่มล้างจมูกข้างที่โล่งกว่า หรือคัดน้อยกว่าก่อน
  • นำปลายกระบอกฉีดยาพลาสติกใส่เข้าไปในจมูกข้างที่จะล้างเล็กน้อยอ้าปากไว้ หายใจเข้าเต็มที่
    โดยให้กลั้นหายใจไว้ก่อนที่จะฉีดน้ำเกลือ
  • ค่อย ๆ ฉีดน้ำเกลือด้วยการดันก้านสูบของกระบอกฉีดยาเบาๆ ให้น้ำเกลือไหลเข้าไปในจมูกช้าๆ
    จากนั้นน้ำเกลือจะไหลออกมาทางจมูกอีกข้างหนึ่งหรือทางปากตามธรรมชาติ แล้วจึงหายใจตามปกติ ข้อสำคัญคือ ระหว่างที่น้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูก จะต้องกลั้นหายใจไว้ มิฉะนั้นอาจหายใจเอาน้ำเกลือลงไปยังกล่องเสียงและหลอดลมทำให้เกิดการสำลักได้ หลังจากที่คุ้นเคยและรู้จังหวะของการหายใจแล้ว จึงเพิ่มปริมาณของน้ำเกลือในการล้างแต่ละครั้งได้ เทคนิคการล้างโพรงจมูกให้สะอาดนั้น
    ในแต่ละครั้งควรจะเปลี่ยนทิศทางของหัวกระบอกฉีดยา เพื่อดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกอย่างทั่วถึงทั้งทางขวาและทางซ้าย ของโพรงจมูก จะช่วยให้ชะล้างน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกในโพรงจมูกออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากฉีดล้างโพรงจมูกข้างใดข้างหนึ่ง ควรจะมีน้ำเกลือไหลออกจากโพรงจมูกอีกข้าง ถึงจะเป็นการล้างที่ถูกต้อง และควรล้างโพรงจมูกสลับข้างไปเรื่อยๆ เช่น หลังล้างข้างซ้าย ก็ควรย้ายไปล้างข้างขวาสลับกันไปมา
  • ควรล้างจนกว่าจะรู้สึกว่าจมูกโล่ง ไม่มีน้ำมูกหรือสิ่งสกปรกอะไรคั่งค้างในจมูก และควรล้างจนกว่าน้ำเกลือที่ออกมานั้นใสเหมือนกับน้ำเกลือก่อนใช้จึงจะหยุดการล้างได้
  • ค่อยๆ สั่งน้ำมูกหรือน้ำเกลือที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกหลังจากล้าง และบ้วนน้ำเกลือ และน้ำมูกส่วนที่ไหลลงคอรวมทั้งเสมหะในคอออกมา
  • แนะนำให้ล้างโพรงจมูกก่อนเวลารับประทานอาหาร (ขณะท้องว่าง) หรือหลังรับประทานอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียนหรือสำลัก
  • ควรล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาดด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน แล้วล้างซ้ำด้วยน้ำประปาจนสะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนเก็บไว้ในที่สะอาดมิดชิด

    ***ในกรณีที่แพทย์ให้ล้างโพรงจมูกด้วยน้ำเกลืออุ่น มีขั้นตอนการอุ่นน้ำเกลือดังนี้ การอุ่นน้ำเกลือเพื่อให้มีอุณหภูมิพอเหมาะกับเยื่อบุโพรงจมูก ให้ต้มน้ำประปาให้เดือดในหม้อต้ม ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่สามารถวางขวดน้ำเกลือเพื่อลงไปอุ่นได้ หลังจากนั้นปิดไฟ ยกหม้อต้มออกจากเตา แล้วนำขวดน้ำเกลือวางแช่ในน้ำต้มประมาณ 5 นาที ก่อนนำไปใช้ล้างโพรงจมูก (ขวดน้ำเกลือซอฟคลีนสามารถทนความร้อนได้)

    *ควรทดลองสัมผัสน้ำเกลือก่อนที่จะฉีดเข้าจมูก เพื่อมั่นใจว่าอุณหภูมิไม่สูงเกินไป
  • การล้างโพรงจมูกเด็ก ใช้ปริมาณน้ำเกลือน้อยกว่าผู้ใหญ่ คือปริมาณ 5 ซีซี สำหรับผู้ใหญ่ใช้น้ำเกลือปริมาณ 10-15 ซีซี
  • การล้างจมูกเด็ก : ระหว่างที่ดันน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูก จะต้องให้เด็กพูดคำว่า “อา” ค้างไว้เสมอ มิฉะนั้น อาจหายใจเอาน้ำเกลือลงไปยังกล่องเสียงและหลอดลม ทำให้เกิดการสำลักได้ เมื่อล้างจมูกเสร็จ กำกับให้เด็กสั่งน้ำมูกหรือน้ำเกลือที่คั่งค้างอยู่ในโพรงจมูกออกทุกครั้ง หากเด็กไม่สามารถสั่งน้ำมูกออกเองได้ ผู้ใหญ่ต้องช่วยดูดน้ำมูกออกด้วยลูกยางแดงที่สะอาดแทน
  • ผู้ที่มีน้ำมูก มีอาการคัดจมูก
  • ผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีฝุ่นควันมลภาวะ
  • ผู้ที่เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง
  • ผู้ที่เป็นโพรงจมูกอักเสบ
  • ผู้ที่ใช้ยาพ่นจมูก (ตามแพทย์สั่ง)
  • ผู้ที่กำลังรักษาโรคในโพรงจมูกอื่นๆ (ตามแพทย์สั่ง)
  • สำหรับผู้ใหญ่ใช้ไซรินจ์ ขนาด 20 cc เพื่อบรรจุน้ำเกลือที่จะใช้ครั้งละ 10-15 cc
  • สำหรับเด็กใช้ไซรินจ์ ขนาด 10 cc เพื่อบรรจุน้ำเกลือที่จะใช้ครั้งละ 5 cc
  • น้ำเกลือปราศจากเชื้อช่วยชะล้างทำความสะอาดแผล ขจัดสิ่งสกปรกออกจากบริเวณแผลได้อย่างปลอดภัย ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค
  • น้ำเกลือปราศจากเชื้อ มีความเข้มข้น สมดุลกับของเหลวในเซลล์ร่างกาย (Isotonic) จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ทำให้แสบแผล
  • แผลที่สะอาดและไม่สัมผัสกับเชื้อโรคจะลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำและช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น